วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

ส่ง EV FORKLIFT ใช้ในโรงงาน

กรุยทางสู่องค์กร Net Zero Carbon ภายในปี 2045


สยามยิปซัม เดินหน้า “ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน” 


 อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 30%  หลายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการฯ ต่างให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนในการพัฒนาโครงการที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ช่วยประหยัดพลังงาน การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมในกระบวนก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการนำวัสดุกลับมาใช้หมุนเวียน เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมก่อสร้างก้าวสู่ความยั่งยืน


สยามยิปซัม เดินหน้า “ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน” ส่ง EV FORKLIFT ใช้ในโรงงาน กรุยทางสู่องค์กร Net Zero Carbon ภายในปี 2045  (2).png    สยามยิปซัม เดินหน้า “ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน” ส่ง EV FORKLIFT ใช้ในโรงงาน กรุยทางสู่องค์กร Net Zero Carbon ภายในปี 2045  (1).png


บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือ สยามยิปซัม ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัม และนวัตกรรมระบบฝ้าเพดานและผนังยิปซัมในประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความยั่งยืนและมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ จึงได้ตั้งเป้าเดินหน้าสู่การเป็น “ธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน” โดยมุ่งมั่นเป็นองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2045


นายอนุพงษ์ รงค์เหลืองอร่าม กรรมการผู้จัดการประเทศไทย กัมพูชา ลาว พม่า บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด กล่าวถึงแผนระยะยาวในการบรรลุเป้าหมายธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืน ด้วยเล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจยิปซัม ที่สามารถต่อยอดสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนที่จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon ในปี 2045 โดยวางกลยุทธ์สำคัญในหลากหลายมิติเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ตัวอย่างเช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ หรือ ฉลาก EPD) การใช้พลังงานทดแทน การลดการใช้พลังงานไฟฟ้า


          “ล่าสุด สยามยิปซัมได้ทำโครงการนำร่อง นำนวัตกรรมพลังงาน EV FORKLIFT ไฟฟ้าภายในโรงงาน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือที่ทุกอุตสาหกรรมต้องใช้งานเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรงในการยกหรือขนย้ายสินค้าอยู่แล้ว โดยภายในไตรมาส 1 ของปี 2024 EV FORKLIFT ไฟฟ้า จะถูกนำไปใช้ในการยกขนย้ายสินค้าภายในโรงงานสระบุรี 2 แห่ง และโรงงานสงขลาอีก 1 แห่ง และภายในปี 2025 บริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนการใช้งานของ EV FORKLIFT ครบ 100% ซึ่งจะเป็นหนึ่งในการดำเนินการเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นให้กับบุคลากรขององค์กรและขยายวงกว้างเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม”

 

สำหรับ EV FORKLIFT จัดว่าเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นมลพิษทางอากาศ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อเปรียบเทียบเชิงพลังงาน (หน่วยกิโลวัตต์-ชั่วโมง) EV FORKLIFT ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันถึง 90% นอกจากนี้สยามยิปซัมยังมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในส่วนงานอื่นอย่างต่อเนื่อง


“เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินธุรกิจวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อน และยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมให้ไปในทิศทางที่ดีขึ้น และพัฒนาสู่ความยั่งยืนไปด้วยกัน”  นายอนุพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น